วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

สงกรานต์

หนังสือปีใหม่เมืองล้านนา
จุลลสกราช ๑๓๗๖ พุทธสกราช ๒๕๕๗-๒๕๕๘
ปลีกาบสะง้า (ปีมะเมีย ฉศก)
ปกติมาส ปกติวาร ปกติสุรทิน


มังคลวุฒิกาลานุกาละ สังกรมสวัสตฺิ ศิริศุภมัสตุ จุลลสกราชได้ ๑๓๗๕ ตัว มะเส็งฉนำกัมโพชพิสัยในคิมหันตอุตุ จินตมาส ศุกลปักษ์ ปัญจทสมี จันทรวารไถง ไทภาษาว่าปลีก่าใส้ เดือน ๗ เพง วันไทดับเหม้าติถี ๑๔ ตัว นาทีติถี ๓๓ ตัว พระจันทร์จรณยุตติโยคโสดเสด็จเข้าเทียวเทียมนักขัตตรืกษ์ตัวถ้วน ๑๓ ชื่อหัสตะคือว่าดาวสอกฅู้ เทวตาปรากฏในวันกันย์ปถวีราศี นาทีฤกษ์ ๘ ตัว เสี้ยงยามตูดเช้าสู่ยามกลองงายปลาย ๑ ลูกมหานาที ปลาย ๒ บาทน้ำ ปลาย ๑๓ พิชชา ปลาย ๒ ปราณ ปลาย ๑๐ อักขระ คือว่าได้ ๐๘ นาฬิกา ๑๑ นาที ๒๔ วินาที พร่ำได้วันจันทร์ ที่ ๑๔ เมษายน พระพุทธสกราช ๒๕๕๗

ยามนั้น รวิสังกรมะ คือ พระสุริยอาทิตย์ ทรงวัตถาภรณ์เครื่องประดับอันขาว สุบกระโจม ต่างกระจอนหู ประดับด้วยแก้ววิฑูรย์ ทัดดอกอุบลขาว นอนสะแคงเหนือหลังช้างเผือก อว่ายหน้าสู่หนปัจฉิม คือทิสสะหนวันตก เสด็จย้ายจากมีนประเทศสู่เมษราศีทางโคณวิถีเข้าใกล้เขาพระสุเมรุราช

ขณะยามนั้น ยังมีนางเทวดาตนหนึ่งชื่อว่ามโนรา ถือเอาดอกกาสะลองอันเปนนิมิตนามปลี มานอนอยู่ถ้าดารับเอาขุนสังกรานต์ไพ ปลีนี้ฝนหัวปลี กลางปลีมีมาก หล้าปลีบ่มี พิชชะของปลูกเข้าไร่นาดีอุดม อุบาทว์จักเกิดแก่ผู้ใหย่ ท้าวพระยาจักเดือดร้อนมากชะแล เหตุตามคาถาว่า "จนฺทภาโน จ สงฺกรฺม เสยฺยโน ปฏิคฺคหํ นครา ชนา ปาทา จ โสกโรคา ทุพฺภิกฺขกา" ดั่งนี้แล ควรสืบชาตาบ้านเมือง ปูชาเคราะห์บ้านเคราะห์เมืองตามอุปเทศเทิอะ จิ่งพ้นแล

ในวันสังกรานต์ไพนั้น จุ่งหื้อครูบาอาจารย์ เจ้านาย ท้าวพระญาเสนาอามาตย์ข้าราชการ ไพร่ ราษฎรทั้งมวลเอากันไพสู่โปกขรณี แม่น้ำ เค้าไม้ จอมปลวกใหย่ หนทางไคว่สี่เส้นสุมกัน อว่ายหน้าไพสู่ทิสะหนวันตกอาบองค์สรงเกศเกล้าเกศี ปลีนี้สรีอยู่ที่หน้าผาก หื้อเอาน้ำอบน้ำหอมเช็ดที่หน้าผากเสีย กาลกิณีอยู่ที่นมจังไรอยู่ที่ปลายมือ หื้อเอาน้ำขมิ้นส้มป่อยเช็ดคว่างเสีย กล่าวคาถาว่า "อม สิริมา มหาสิริมา เตชะ ยสฺลาภา อายุ วณฺณา ภวนฺตุเม" ลอยจังไรเสียในที่ทังหลายฝูงนั้น แล้วมานุ่งทรงเสื้อผ้าผืนใหม่ ทัดดอกกาสะลองอันเปนพระญาดอก หากจักมีอายุยืนยาวไพชะแล

เดือน ๗ ลงค่ำ ๑ พร่ำว่าได้วันอังคารที่ ๑๕ เมษายน พระพุทธสกราช ๒๕๕๗ วันไทรวายสีเปนวันปูติ คือวันเน่า ในวันเน่านั้น บ่ควรจักกะทำมังคลกัมส์สักอัน อย่าหื้อคนทั้งหลายมีใจขุ่นมัวกวนเกลาด้วยบาปเปนต้นว่า ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร อย่าผิดถ้องร้องเถียงกัน หื้อมีสามัคคฉันทาพร้อมเพรียงกัน ชำระหอเรือนบ้านชอง กวาดซายดายหญ้า ข่วงวัดวาอาราม ข่วงไม้สรี เจติยะพระธาตุ ขนซายใส่วัด จักมีผลานิสงส์กว้างขวางมากนักชะแล

เดือน ๗ ลง ๒ ค่ำ เปนวันพระญาวัน พร่ำว่าได้วันพุธที่ ๑๖ เมษายน พระพุทธสกราช ๒๕๕๗ วันไทเมืองใส้ ติถี ๑ นาทีติถี ๓๓ พระจันทร์จรณยุติโยด โสดเสด็จเข้าเทียวเทียมนักขัตตรืกษ์ตัวถ้วน ๑๕ ชื่อสวาติ คือดาวช้างพัง เทวตาปรากฏในตุลย์วาโยราศี นาทีฤกษ์ ๕ ตัว เสี้ยงยามเที่ยงสู่ยามตูดซ้ายปลาย ๑ บาทน้ำ ปลาย ๗ พิชชา ปลาย ๒ ปราณ ปลาย ๑๐ อักขระ คือว่าได้เวลา ๑๒ นาฬิกา ๐๙ นาที ๐๐ วินาที ยามนั้น สกราชจิ่งขึ้นแถมตัวนึ่ง จิ่งเปน ๑๓๗๖ ตัว ปลีกาบสะง้าแล

ปลีนี้ได้เศษ ๘ ชื่อพิณณวทกวัสสะ ปลีนี้วอกรักษาปลี หมาจิ้งจอกรักษาเดือน หมูรักษาป่า ปลาตีนรักษาน้ำ ตักกสิลยักข์รักษาอากาส กุมภัณฑ์รักษาแผ่นดิน ท้าวพณะญาเป็นใหย่แก่คนทั้งหลาย วอกเป็นใหญ่แก่สัตว์ ๔ ตีน ตักแตนเปนใหย่แก่สัตต์ ๒ ตีน ไม้หาดเปนใหย่แก่ไม้จิง ไม้แมเปนใหย่แก่ไม้กลวง หย้าเลาเปนใหย่แก่หย้าทั้งหลาย ดอกกาสะลองเปนพระญาแก่ดอกไม้ โอชารสดินบ่มีหลาย

ขวันเข้าอยู่ไม้เดื่อ หื้อเอาไม้เดื่อมาแปลงเปนคันเข้าแรก ไม้พานแขเปนพระญาแก่ไม้กลวงไม้ตันทังมวล ผีเสื้ออยู่ไม้สะเลียม ผีเสื้ออยู่ไม้อันใดอย่าได้ฟักฟันตัดปล้ำยังไม้อันนั้น คันจักกะทำมังคลกัมมืเยื่องใดหื้อได้ปูชาผีเสื้ออยู่ไม้นั้นเสียก่อนกะทำ จักสมริทธีชะแล

นาคราชขึ้นน้ำ ๒ ตัว บันดาลหื้อฝนตก ๕๐๐ ห่า ชื่อ จันทาธิปติ จัดเปนตางได้ ๕ ตาง แลตางกว้างได้ ๖๐ โยชนะ เลิก็ ๓๐ โยชนะ จักตกในเขาสัตตปริภัณฑ์ ๒๔๗ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๖๑ ห่า ตกในมนุสสโลกเขตเมืองคน ๙๒ ห่า เทวดาวางเครื่องประดับหนปัจฉิม คือ ทิสะหนวันตก บาปเคราะห์ตกหนพายัพ คือ ทิสะหนวันตกแจ่งเหนือ ปาปลัคนาตกหนอาคไนย์ คือ ทิสะหนวันออกแจ่งใต้ ในทิสะทัง ๓ นี้ กะทำมังคลกัมม์และอาบน้ำดำาหัวชำระตัวตน อย่าอว่ายหน้าไพต้องบ่ดี

อตีตวรพุทธสาสนาคลาล่วงได้ ๒๕๕๖ พระวัสสา ปลาย ๑๑ เดือน ปลาย ๒ วัน นับแต่วันพระญาวันคืนหลัง อนาคตวรพุทธสาสนาจักมาพายหน้าบ่น้อย ยังอยู่ ๒๕๕๓ พระวัสสา ปลาย ๒๘ วันนับตั้งแต่วันปากปลีไพพายหน้า ตามชินกาลมาลินีสังเกตเหตุเอาบวกสมกันเตม ๕๐๐๐ พระวัสสาบ่เสษ เหตุตามฎีกาชินกาลมาลินีมหาพิลางคสัมมิหรสีเจ้า หากวิสัชชนาแปลงสืบๆมานั้นแล ปริโยสาน สมตฺตา ฯ

(ดร.ยุทธพร นาคสุข เปนผู้วิสัชชนาปล่านแปลงแต่งแต้มทำนายพยากรณ์แล)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น